การตลาดสำหรับร้านอาหาร มีการออกแบบเครื่องมือทางการตลาด อาจจะเรียกว่าเป็นกับดักที่ร้านอาหารยอดนิยมทำให้คุณทั้งกินและใช้จ่ายมากขึ้น โดยที่ไม่อยากให้คุณรู้ พอจะสรุปมาได้ 20 ข้อดังต่อไปนี้
1. จูงใจด้วยราคา
ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้คุณสั่งอาหารที่แพงที่สุดในเมนู แต่ต้องการให้คุณสั่งอาหารที่ทำกำไรได้มากที่สุด โดยมักวางอาหารราคาแพงที่มีกำไรสูงใกล้กับอาหารที่มีราคาแพงกว่าแต่มีกำไรต่ำในเมนู จากการเปรียบเทียบ ทำให้ตัวเลือกเดิมดูเหมือนเป็นข้อเสนอที่ดีและเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภค กับดักนี้เรียกว่า “Decoy Pricing” หรือ “การตั้งราคาล่อ”
2. เสนอเครื่องดื่ม
เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้คุณพร้อมสำหรับมื้ออาหารที่กำลังจะมาถึง ยิ่งไปกว่านั้นการดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะหิวและสั่งอาหารมากขึ้น
3. สร้างความขบขัน
เป็นการสร้างบรรยากาศเพื่อให้ง่ายต่อการแนะนำเมนูที่แพงขึ้นได้
4. เครื่องเคียง
เป็นการเพิ่มยอดขายแบบคลาสสิก การจับคู่ของอาหารแทนที่จะเป็นเพียงการเพิ่มยอดขาย เพียงแค่คุณแนะนำว่าเครื่องเคียงนี้จะเข้ากันได้ดีกับอาหารที่เพิ่งสั่งไป
5. เสนอไวน์ทั้งขวด
โดยการใช้ราคาเป็นตัวล่อ ระหว่างไวน์หนึ่งแก้วและไวน์ทั้งขวด แต่พนักงานเสิร์ฟมักจะเสนอไวน์ทั้งขวดเพราะทำเงินได้มากกว่า
6. ใช้พื้นที่ว่างบนเมนู
เพื่อดึงดูดสายตาไปยังเมนูเด่น เป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในเมนูอาหาร เพื่อเน้นข้อความ โดยเฉพาะเมนูที่กำไรสูงสูด มักอยู่แยกจากเมนูปกติ
7. “ของหวาน” หรือ “ไวน์อีกแก้ว”
แน่นอนว่าการสั่งของหวาน อาจทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่หากเสนอพร้อมกับไวน์ จะทำให้โอกาสที่จะปฏิเสธของหวานมีมากขึ้นเนื่องจากปริมาณแคลอรี่ แต่จริงๆแล้วไวน์ขายดีกว่าสำหรับร้านอาหาร กำไรของคุณก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
8. แนะนำเมนู ”สีเขียว”
หากคุณสั่งอาหารหลังจากคนที่เลือกสิ่งที่ใส่ใจสุขภาพ คุณก็มีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตาม (ในทางกลับกันถ้าคนที่สั่งก่อนเลือกอาหารที่มีแคลอรีสูงกว่า คุณก็มีแนวโน้มที่จะทำเช่นเดียวกัน)
9. Downselling
เป็นการเสนอสินค้าตัวใหม่ที่มีราคาถูกกว่า หรือเสนอสินค้าตัวเดียวกัน แต่ขายในราคาที่ถูกกว่านิดหน่อย พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ เป็นรูปแบบหนึ่งของจิตวิทยาย้อนกลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นลูกค้าที่ชอบ “โอ้อวดว่าพวกเขามีเงิน”
10. แนะนำ “เมนูโปรดส่วนตัว”
พนักงานเสิร์ฟที่ดูจริงใจในการแบ่งปันเมนูที่พวกเขาชอบเป็นการส่วนตัวสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้มากขึ้น เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
11. ขายความพิเศษ
วิธีที่มีประสิทธิภาพในการเกลี้ยกล่อมลูกค้าให้ใช้จ่ายที่ร้านอาหารมากขึ้นคือ การทำให้สินค้าดูเหมือนเป็นของหายาก สามารถกระตุ้นการขายได้
12. “น้ำเปล่า” หรือ “sparkling”
เป็นการเพิ่มยอดขาย โดยลูกค้าอาจรู้สึกลำบากใจหรือรู้สึกถูกกดดัน แต่แนวโน้มที่จะสั่งเครื่องดื่มที่มีราคาสูงกว่าปกติก็มีมากขึ้น
13. ใช้กลยุทธ์การตั้งราคา
ร้านอาหารรสเลิศ ราคามักจะปัดเศษขึ้น เป็นการส่งสัญญาณที่มั่นใจว่าอาหารของร้านนี้คุ้มค่าคุ้มราคา การเลือกใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารของคุณได้
14. เดินเสิร์ฟผ่านบ่อยๆเมื่อคุณสั่งเฉพาะเครื่องดื่ม
เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนใจ ยิ่งคุณมีเครื่องดื่มมากเท่าไหร่ คุณก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนใจและสั่งอาหารสักจานหรือสองจานแน่นอน
15. การลบเครื่องหมายดอลลาร์
การใช้เครื่องหมายดอลลาร์หน้าราคา จะลดโอกาสในการซื้อลงได้ ดังนั้นร้านอาหารส่วนใหญ่จึงลบหรือตัดออก
16. แบ่งประเภทลูกค้า
สำหรับร้านอาหารรสเลิศไม่ใช่เรื่องแปลกที่พนักงานเสิร์ฟผู้ช่ำชองจะระบุประเภทของลูกค้าและดำเนินการแตกต่างกันในการแนะนำเมนูและการให้บริการเพื่อสร้างความประทับใจ
17. ใช้จานและช้อนส้อมที่มีน้ำหนัก
ร้านอาหารที่ลงทุนในจานชามและช้อนส้อมที่สูงกว่ากำลังส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้ทราบว่าอาหารของพวกเขามีมูลค่าตามป้ายราคาที่สูง เป็นอาหารที่กินแล้วหรูหราและน่าเพลิดเพลินกว่า
18. ภาษาที่ใช้บรรยาย
คำอธิบายที่น่ารับประทานจะเปลี่ยนความรู้สึกพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่ออาหารและร้านอาหาร แม้กระทั่งส่งผลต่อความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับการกลับมาใช้บริการในอนาคต
19. ดนตรีคลาสสิก
ร้านอาหารดีๆ ดนตรีเพราะๆ เป็นกลวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในร้านอาหารรสเลิศ เพื่อส่งสัญญาณให้ลูกค้าทราบว่าบรรยากาศร้านอาหารสวยงามและคุ้มค่ากับราคาที่พวกเขาจ่ายไป ดนตรีคลาสสิกเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกค้าใช้จ่ายเงินในมื้ออาหารมากขึ้นเมื่อเทียบกับคืนที่มีดนตรีป๊อบหรือไม่มีดนตรี
20. ใส่ราคาไว้หลังเมนู
การใส่ราคาไว้หลังเมนูโดยตรงจะทำให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับเมนูอาหารมากกว่าการเปรียบเทียบราคา และใช้จ่ายโดยไม่ต้องกังวล