เมื่อราคาวัตถุดิบสูงขึ้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อร้านอาหารหลายร้าน ในฐานะผู้ประกอบการ เราจำเป็นต้องควบคุมค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ไม่กระทบต่อผู้บริโภคมากนัก และนี่คือ 4 วิธีจัดการต้นทุนอาหารอย่างสร้างสรรค์
1. ทุกเมนูต้องขายได้🍝
ตรวจสอบเมนู ดูว่ามีอะไรที่ขายได้และขายไม่ได้บ้าง ? หากเราซื้อวัตถุดิบสำหรับเมนูที่ขายได้ไม่ดี แสดงว่าเรากำลังสูญเสียต้นทุนโดยใช่เหตุ นอกจากนี้ หากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น เราต้องแน่ใจว่าคุ้มค่ากับกำไรที่จะได้รับในเมนูนั้น ๆ ด้วย
2. ติดฉลากวันหมดอายุให้กับวัตถุดิบ
เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เย็นและอายุของวัตถุดิบเท่าไหร่บ้าง วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องเก็บวัตถุดิบไว้นานเกินไปหรือทิ้งวัตถุดิบเร็วเกินไปทั้ง ๆ ที่วัตถุดิบนั้นอาจจะยังใช้ได้อยู่ การติดฉลากยังช่วยให้แน่ใจว่าเราใช้ทุกอย่างในตู้เย็นก่อนจะหมดอายุและลดการสิ้นเปลืองจากความผิดพลาดได้
3.ให้พนักงานมีส่วนร่วม
หากเรากำลังพยายามจัดการต้นทุนอาหาร เราจำเป็นต้องให้พนักงานเข้าร่วมด้วย พนักงานในครัวคือคนที่สามารถช่วยลดต้นทุนให้ร้านอาหารของเราได้จริง ฝึกฝนพวกเขาให้ดีและอธิบายให้ฟังว่าการลดขยะอาหาร และต้นทุนอาหารมีความสำคัญมากแค่ไหน
4.งดวางถังขยะในครัว
นี่อาจฟังดูเหมือนเป็นความคิดที่บ้าบอ แต่ถ้าเราลองนำถังขยะออกจากห้องครัว แล้วใช้กล่องอาหารพลาสติกใสแทน ติดป้ายชื่อสมาชิกทีมครัวแต่ละกล่อง และให้พวกเขาใส่เศษอาหารทั้งหมดลงในกล่องของตัวเอง เราอาจจะแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้
4 วิธีเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ง่าย และสามารถทำได้ทันที เพื่อจัดการต้นทุนอาหารของเราให้คงที่และอาจเป็นช่วยการลดต้นทุนของร้านอาหารเราได้ หากเราจัดสรรได้อย่างเหมาะสมด้วยครับ