เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ มีมากมายหลายประเภท สามารถหาซื้อได้ง่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือแม้แต่ในร้านสะดวกซื้อ แอลกอฮอล์บางชนิดที่ได้จากการกลั่นมีปริมาณ แอลกอฮอล์ เข้มข้นขึ้น ทำให้เสี่ยงต่ออันตรายมากขึ้นได้
แอลกอฮอล์คืออะไร
มนุษย์เราดื่ม แอลกอฮอล์ มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แอลกอฮอล์ เป็นทั้งสารเคมีและยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ในทางเคมี แอลกอฮอล์ จะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มไฮดรอกซีซึ่งเป็นอะตอมคู่ของออกซิเจน
และไฮโดรเจนแทนที่อะตอมของไฮโดรเจนในไฮโดรคาร์บอน แอลกอฮอล์จับตัวกับอะตอมอื่นเพื่อสร้าง แอลกอฮอล์ ทุติยภูมิ แอลกอฮอล์ทุติยภูมิเหล่านี้เป็นแอลกอฮอล์สามประเภทที่มนุษย์ใช้ทุกวัน ได้แก่ เมทานอล, ไอโซโพรพานอล และเอทานอล
ประเภทของแอลกอฮอล์
แบ่งตามส่วนประกอบทางเคมี ได้แก่
1.เมทานอล (หรือเมทิลแอลกอฮอล์)
เป็นส่วนประกอบในน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์และเรือ นอกจากนี้ยังใช้ในการผลิตสารป้องกันการแข็งตัว, น้ำยาลอกสี, น้ำยาปัดน้ำฝนและผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมาย
2.ไอโซโพรพานอล (หรือไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์)
เป็นชื่อทางเคมีของแอลกอฮอล์ซึ่งเราใช้สำหรับทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ทั้งเมทานอลและไอโซโพรพานอลเป็นพิษต่อมนุษย์ เนื่องจากร่างกายของเราเผาผลาญเป็นสารพิษซึ่งทำให้ตับวาย การดื่มเมทานอลหรือแอลกอฮอล์ในปริมาณเล็กน้อยอาจถึงแก่ชีวิตได้
3.เอทานอล (หรือเอทิลแอลกอฮอล์)
เป็นแอลกอฮอล์ชนิดเดียวที่มนุษย์สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย เป็นแอลกอฮอล์ประเภทหนึ่งที่ผู้คนกว่าสองพันล้านคนดื่มทุกวัน แอลกอฮอล์ประเภทนี้เกิดจากการหมักยีสต์ น้ำตาล และแป้ง
เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ผู้คนบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเอทานอล เช่นเบียร์และไวน์ อย่างไรก็ตามเอทานอลยังมีผลเสียต่อร่างกาย ถึงแม้ตับของมนุษย์สามารถเผาผลาญเอทานอลได้ แต่ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น
ประเภทของเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มี 2 ประเภท นั่นคือ กลั่นและไม่กลั่น เครื่องดื่มที่ไม่ผ่านการกลั่นเรียกอีกอย่างว่า “เครื่องดื่มหมัก (Fermented Drinks)” การหมักเป็นกระบวนการที่แบคทีเรียหรือยีสต์เปลี่ยนน้ำตาลเป็นเอทานอลทางเคมี ไวน์
และเบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านการหมักและไม่ผ่านการกลั่น โรงบ่มไวน์หมักองุ่นเพื่อทำไวน์และโรงเบียร์หมักข้าวบาร์เลย์ข้าวสาลี
และธัญพืชอื่นๆเพื่อทำเบียร์ การกลั่นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากการหมัก ทำให้แอลกอฮอล์เข้มข้นขึ้นโดยแยกออกจากน้ำและส่วนประกอบอื่นๆของสารหมัก
สุราเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลั่น มีปริมาณแอลกอฮอล์ (ABV) มากกว่าเครื่องดื่มที่ไม่ผ่านการกลั่น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านการกลั่นแล้วจะมีค่า Proof ที่สูงกว่าเช่นกัน
Alcohol by volume (ABV) และ Alcohol proof (Proof)
คือหน่วยวัดปริมาณแอลกอฮอล์หรือความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม แต่มีวิธีคิดต่างกันเล็กน้อย
- หาค่า ABV จาก Proof ให้นำจำนวน ABV คูณสอง จะได้ค่า proof
- หาค่า Proof จาก ABV ให้นำจำนวน Proof หารสอง จะได้ค่า ABV
ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มที่มี ABV 50% จะได้ค่า Proof 100
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆตามปริมาณแอลกอฮอล์ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิดและบางชนิดมีแอลกอฮอล์มากกว่าชนิดอื่นๆ
ประเภทของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูงกว่าสามารถทำให้เกิดอาการเมาสุราและพิษจากแอลกอฮอล์ได้เร็วขึ้นแม้ดื่มในปริมาณน้อย
เครื่องดื่มที่ไม่ผ่านการกลั่น (Undistilled Drinks)
1.เบียร์ (Beer)
เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกและยังเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เบียร์มาตรฐานจะมี ABV อยู่ระหว่าง 4-6%
แม้ว่าเบียร์บางชนิดจะมีแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงหรือต่ำกว่าก็ตาม ตัวอย่างเช่น “Light beers” มี ABV ระหว่าง 2-4%เท่านั้น ในขณะที่ “malt liquors” มีแอลกอฮอล์ 6-8%
2.ไวน์ (Wine)
ไวน์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมและเก่าแก่อีกชนิดหนึ่ง ไวน์มาตรฐานมี ABV น้อยกว่า 14% แชมเปญ ซึ่งเป็นไวน์อัดลมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดมี ABV ประมาณ 10-12% ไวน์บางชนิดเสริมด้วยแอลกอฮอล์กลั่น เช่น Port, Madeira, Marsala, Vermouth และ Sherry จะมี ABV ประมาณ 20%
3.ฮาร์ดไซเดอร์ (Hard Cider)
ฮาร์ดไซเดอร์คือน้ำแอปเปิ้ลหมักที่หมักต่อจนเกิดเป็นแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้นกว่าปกติ โดยปกติจะมี ABV ประมาณ 5%
4.ไวน์น้ำผึ้ง (Mead)
ไวน์น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมของน้ำและน้ำผึ้งหมัก มี ABV ระหว่าง 10-14%
5.สาเก (Sake’)
สาเกเป็นเครื่องดื่มญี่ปุ่นที่รู้จักกันดี ทำจากข้าวหมัก มี ABV ประมาณ 16% เครื่องดื่มที่ผ่านการกลั่น (Distilled Drinks)
6.ยิน หรือ จิน (Gin)
จินทำจากจูนิเปอร์เบอร์รี่ มี ABV ตั้งแต่ 35-55%
7.บรั่นดี (Brandy)
บรั่นดีเป็นไวน์กลั่น มี ABV ตั้งแต่ 35-60% ตัวอย่างเช่น Cognac มี ABV 40%
8.วิสกี้ (Whisky)
วิสกี้ทำจากเมล็ดพืชหมัก มี ABV ตั้งแต่ 40-50%
9.รัม (Rum)
รัมเป็นเครื่องดื่มกลั่นที่ทำจากอ้อยหมักหรือกากน้ำตาล มี ABV โดยทั่วไปคือ 40% รัมบางชนิดมีค่า “overproof” ซึ่งหมายความว่า มี ABV อย่างน้อย 57.5% แต่มีรัมบางชนิดที่มี ABV 75.5% ซึ่งเทียบเท่ากับ Proof 151
10.เตกีล่า (Tequila)
เตกีล่าเป็นเหล้าประเภทหนึ่ง ส่วนผสมหลักของเตกีลาคือ อากาเว พืชพื้นเมืองของเม็กซิกัน โดยทั่วไป ABV ของเตกีล่าจะอยู่ที่ประมาณ 40%
11.วอดก้า (Vodka)
วอดก้ามักทำจากธัญพืชและมันฝรั่งหมัก มี ABV มาตรฐานในสหรัฐอเมริกา คือ 40%
12.แอ๊บซิงธ์ หรือ แอ๊บแซ๊งธ์ (Absinthe)
Absinthe ทำจากใบไม้และสมุนไพรหลายชนิด ไม่มีหลักฐานว่า absinthe เป็นยาหลอนประสาท แต่มี ABV สูง โดยบางชนิดมี ABV ประมาณ 40% ในขณะที่บางชนิดมี ABV มากถึง 90%
13.Everclear
Everclear เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืช (Grain alcohol) ระดับของ ABV ขั้นต่ำของ Everclear คือ 60% แต่สามารถมี ABV 75.5% และ 95% ได้เช่นกัน
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มแอลกออฮอล์ที่นำมาแนะนำให้รู้จักกันนะคะ ก่อนหยิบบมาดื่มครั้งหน้าอย่าลืมพลิกดูค่า ABV หรือ Proof ยิ่งมีค่าสูง แสดงว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูง ควรผสมหรือดื่มแต่พอดี เพราะความเสี่ยงอาจถึงชีวิตได้ แต่ถ้าใครคิดว่าไหว ก็จัดไปค่ะ
Resource:
https://sunrisehouse.com
https://www.alcoholrehabguide.org