กล้วยทอด และกล้วยแขกมีความเหมือนกันตรงที่เป็นขนมไทยที่ทำจากกล้วยสุกทอด แต่มีความแตกต่างกันที่ตัวแป้งที่ใช้ชุบดังนี้
ความแตกต่างระหว่างกล้วยทอดกับกล้วยแขก
- กล้วยทอด จะใช้แป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วนำไปทอดจนสุกเหลือง เนื้อแป้งจะกรอบนอกนุ่มใน
- กล้วยแขก จะใช้แป้งข้าวเจ้าผสมกับกะทิหรือมะพร้าวขูด แล้วนำไปทอดจนสุกเหลือง เนื้อแป้งจะเหนียวนุ่ม
กล้วยทอดและกล้วยแขกมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย ชาวอินเดียนิยมนำกล้วยสุกมาทอดเป็นขนมหวาน ต่อมาชาวอินเดียเข้ามาในประเทศไทยและได้นำสูตรกล้วยทอดมาเผยแพร่ คนไทยได้ดัดแปลงสูตรโดยเพิ่มกะทิหรือมะพร้าวขูดลงไปในแป้ง ทำให้ได้กล้วยทอดที่มีลักษณะเหนียวนุ่มขึ้น เรียกกันว่า “กล้วยแขก“
ประโยชน์
กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินบี 6 วิตามินซี โพแทสเซียม และไฟเบอร์ การรับประทานกล้วยเป็นประจำจะช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคได้หลายชนิด
สูตรการทำกล้วยทอดและกล้วยแขก
ส่วนผสม
- กล้วยน้ำว้าสุก 10 ลูก
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- กะทิ 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับกล้วยแขก)
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับกล้วยแขก)
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1.สำหรับกล้วยทอด ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำเปล่า และเกลือป่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนกล้วยแขกผสมแป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2.ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้า แล้วหั่นเป็นท่อนขนาดประมาณ 1 นิ้ว
3.นำกล้วยหั่นมาชุบแป้งที่ผสมไว้จนทั่ว
4.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชบนไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่กล้วยที่ชุบแป้งลงไปทอดจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน
5.ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
6.จัดเสิร์ฟ
เคล็ดลับ
- ควรเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดี ไม่สุกเกินไป เพราะจะทำให้กล้วยเละเมื่อนำไปทอด
- แป้งทอดกรอบควรผสมให้พอข้น จะได้ไม่หลุดออกจากกล้วยเมื่อนำไปทอด
- ควรทอดกล้วยในน้ำมันที่ร้อนจัด เพื่อให้กล้วยสุกเหลืองกรอบ
- ไม่ควรทอดกล้วยนานเกินไป เพราะจะทำให้กล้วยแข็ง
หากต้องการเพิ่มรสชาติ สามารถใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ลงในแป้งทอดกรอบได้ เช่น งาขาว ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น