“คุณกศุภกิจ ตระกูลกิจเจริญ หรือกิจ” และ “คุณเพ็ญประภา ตระกูลกิจเจริญหรือนุ่น” ผู้สืบทอดร้าน “นายอ้วนเย็นตาโฟ” ซึ่งเปิดมานานกว่า 50 ปี
ย้อนกลับไป ช่วงรุ่นอากง อากงมักจะตระเวนชิมของอร่อยตามที่ต่างๆ และเมื่อกลับบ้านก็มักจะนำความอร่อยที่สั่งสมจากการชิมนั้นมาปรุงอาหารให้ลูกหลานได้ทานกัน ซึ่งทุกคนต่างก็ติดใจในฝีมือ อากงจึงคิดที่จะหารายได้ เลยเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ แต่มีความพิเศษตรงที่ใส่วัตถุดิบอย่างบะเต็งลงไป ทำให้ขายดิบขายดี จนกลายเป็นร้านดังย่านเสาชิงช้าและไม่นานพ่อและแม่ของคุณกิจและคุณนุ่นก็ได้สานต่อ จากที่อากงเคยซื้อของจากตลาดมาทำอาหาร ก็เปลี่ยนมาทำลูกชิ้น ทำเกี๊ยวกุ้งเอง จนมารุ่นล่าสุด เจเนอเรชั่นที่ 3 คือรุ่น คุณกิจและคุณนุ่น ตอนแรกทั้งสองคนจะทิ้งกิจการนี้เพราะไม่อยากเหนื่อยเหมือนพ่อและแม่ แต่ด้วยความคิดที่ว่า ถ้าเราเจอร้านอร่อยๆและวันหนึ่งมันถูกปิดไป เราก็คงจะเสียดายเหมือนกัน จึงเริ่มกลับมาสานต่ออีกครั้ง ทั้งสองได้เริ่มจากการปลูกผักบุ้งเองเพราะผักบุ้งตามตลาดมันแข็ง ทำให้เวลาทานไม่อร่อยเท่าที่ควร จากนั้น จึงเริ่มขยับขยาย จากร้านที่เป็นห้องแถวเล็กๆย่านเสาชิงช้า กลายเป็นร้านที่อยู่ในเมืองและในห้างฯ มีถึง 14 สาขา นอกจากนั้น ยังมีแบรนด์เป็นของตัวเองอีกด้วย
เดือนหน้าเตรียมเปิดครัวสำหรับเสิร์ฟลูกค้าเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ นับเอาเฉพาะสาขาที่เสาชิงช้าเป็นหลัก ยอดขายกว่า 20% นั้นมาจากเดลิเวอรี่เพราะพวกเขามองว่าในอนาคตฟู้ดเดลิเวอรี่ มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม และสิ่งที่พวกเขามองก็สอดคล้องกับสิ่งที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ในปี 2562 จะมีมูลค่าอยู่ที่ 33,000–35,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณร้อยละ 14 จากปี 2561 และมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อยๆและอีกเป้าหมายนึงคือ ต้องการให้พ่อและแม่ได้พักผ่อนบ้าง พวกเขาเหนื่อยเพื่อพวกเรามาทั้งชีวิตแล้ว