การอ่าน ฉลากอาหาร เป็นสิ่งสำคัญเพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่คุณกำลังบริโภค เพื่อให้คุณทราบถึงส่วนผสม ค่าสารอาหาร และข้อมูลทางโภชนาการที่สำคัญ
1.ส่วนหัวของฉลาก
ส่วนที่อยู่ด้านบนของฉลากบ่งบอกถึงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น ชื่อสินค้า, ชนิดของสินค้า (เช่น นม, น้ำปั่น, อาหารคลีน, ขนม ฯลฯ) และปริมาณของสินค้าในบรรจุภัณฑ์ (เช่น 500 กรัม, 1 ลิตร)
2.รายการส่วนประกอบ (Ingredients)
ส่วนที่บอกถึงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งระบุว่าประกอบด้วยส่วนอะไรบ้าง มักเรียงตามลำดับจากปริมาณที่มากที่สุดไปน้อยที่สุด หากคุณมีอาหารหรือส่วนประกอบที่แพ้ ต้องอ่านส่วนนี้อย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้
3.ป้ายแดงหรือคำเตือน
ฉลากอาจมีป้ายแดงหรือคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น “มีแป้งสาลี” (gluten), “มีแลคโตส” (lactose), “มีโปรตีนถั่วเหลือง” (soy protein) เป็นต้น ควรอ่านและตรวจสอบความเหมาะสมต่อความต้องการของคุณ
4.ปริมาณสารอาหาร
ตรวจสอบปริมาณแคลอรี่ (calories), น้ำตาล (sugar), ไขมัน (fat), โซเดียม (sodium) และสารอาหารอื่น ๆ ที่คุณต้องการควบคู่กับสภาพร่างกายและการออกกำลังกาย
5.วันหมดอายุ
ตรวจสอบวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่ายังใช้งานได้ ไม่ควรบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่หมดอายุแล้ว
6.ข้อมูลสำหรับผู้ที่อาจมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Nutritional Facts)
ส่วนนี้จะบอกความเป็นสารอาหารของผลิตภัณฑ์ต่อหน่วยปริมาณที่กิน เช่น สารอาหารหลัก ๆ ที่ให้เป็นเปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่กิน เช่น คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, ใยอาหาร ฯลฯ
7.บรรจุภัณฑ์
ส่วนนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเก็บรักษาและวิธีใช้งาน หากมีคำแนะนำในการเก็บรักษา ควรทำตามเพื่อรักษาความสดของผลิตภัณฑ์ไว้ให้ได้นาน
8.ฉลากบริษัทผู้ผลิต
ควรตรวจสอบข้อมูลผู้ผลิตเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานความปลอดภัย
อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุและข้อมูลการเก็บรักษาอาหารที่ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการบริโภคอาหารเสมอ หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉลากอาหาร สามารถสอบถามพนักงานร้านค้าหรือผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้เสมอ